Grape Seed เข้มข้น 24,000 mg
200 OPC ขนาด 180 ซอฟเจล
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract)
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรงกว่าวิตามินซี 20 เท่าและแรงกว่าวิตามินอี 50 เท่า ช่วยต่อต้านการทำลายเส้นใย คอลลาเจน และอีลาสตินในผิวหนังที่เกิดจากอนุมูลอิสระ เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินเป็นโครงสร้างหลักในผิว ทำหน้าที่ค้ำจุนและให้ความยืดหยุ่น หากถูกทำลายไปก็จะเกิดรอยเหี่ยวย่นที่มองเห็นได้ชัดเจน ส่วนเซลล์ผิวหนังในชั้นหนังกำพร้า (ชั้นนอกสุด) หากถูกทำลายจะปรากฏรอยแห้งกร้าน สารสกัดจากเมล็ดองุ่นจึงช่วยรักษาความกระชับ เต่งตึงของผิว ขณะเดียวกันก็ป้องกันริ้วรอยหยาบกร้านได้ นอกจากนี้ในผู้ที่มีปัญหาฝ้า หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ สารสกัดจากเมล็ดองุ่นจะสามารถช่วยลดความเข้มของสีผิวบริเวณที่ดำคล้ำลง จึงทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส
คุณสมบัติอื่น ๆ ที่จะช่วยดูแลสุขภาพร่างกาย เช่น ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และเพิ่มความแข็งแรงให้กับหลอดเลือดจึงช่วยป้องกันโรคหัวใจ บรรเทาอาการมือและเท้าชา รักษาเส้นเลือดขอด ชะลอความเสื่อมของโรคจอประสาทตาเสื่อมและโรคต้อกระจก
คุณสมบัติทั่วไปของสารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract)
- เป็น Super antioxidant สามารถจับกับอนุมูลอิสระได้ดี ต้านอนุมูลอิสระได้ทุกรูปแบบ และจำนวนมาก
- ถูกดูดซึมจากกระเพาะอาหาร และลำไล้เล็กเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็วภายใน 20-30 นาที จากนั้นจึงกระจายไปสู่อวัยวะและเนื้อเยื่อต่างๆ และยังคงอยู่ภายในร่างกายได้นาน (half life 7 ชม.)
- สามารถรวมตัวได้ดีกับคอลลาเจนซึ่งเป็นโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบของผิวหนัง หลอดเลือดและอวัยวะต่างๆ จึงทำให้เซลผิวหนังแข็งแรง ไม่เหี่ยวย่น หลอดเลือดมีความยืดหยุ่นดี ไม่เปราะหรือแตกง่าย
- สามารถผ่านแนวกั้นสมอง (blood brain barrier) ได้ จึงป้องกันสมองมิให้เสียหายจากอนุมูลอิสระ คุณสมบัติเด่นนี้ทำให้เป็น antioxidant ที่ต่างจากชนิดอื่น ๆ
- ทำงานร่วมกับวิตามินซีในการทำให้คอลลาเจนทั่วร่างกายแข็งแรงขึ้น และยังช่วยป้องกันการสูญเสียวิตามินซีและอี
ป้องกันเส้นเลือดขอดได้อย่างไร?
มีสารสำคัญ กลุ่ม ไบโอฟลาโวนอยด์ OPC (Oligomeric Proanthocyanidins) ที่มีคุณสมบัติจับกับอนุมูลอิสระที่คอยทำลายเซลล์ผนังหลอดเลือด เพิ่มความแข็งแรงให้กับคอลลาเจน และยับยั้งเอนไซม์ที่ทำลายคอลลาเจน บริเวณหลอดเลือด ได้แก่ เอนไซม์ คอลลาจิเนส (Colleganase) ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) อีลาสเตส (Elastase) ซึ่งจะส่งผลให้ผนังหลอดเลือดแข็งแรง ป้องกันการเป็นเส้นเลือดขอดได้ และแก้ไขปัญหาเส้นเลือดขอดระยะเริ่มต้น (Spider web)
ประโยชน์ของ OPC
1. ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ในสัตว์ทดลอง ป้องกันโรคหลอดเลือดอักเสบอุดตันได้ (atherosclerosis) จากการไปต้าน Oxidative stress ต่อ LDL OPC ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่มากระทำต่อ LDL เป็นการช่วยจะยับยั้งการเกาะตัวของโคเลสเตอรอลที่ผนังหลอดเลือด เป็นการป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ช่วยให้โลหิตไหลเวียนได้ดี ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและสมอง
2. ช่วยให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง ไม่เปราะหรือแตกหักง่าย เนื่องจาก OPCสามารถรวมตัวกับคอลลาเจนของผนังหลอดเลือดได้ดี จึงป้องกันอนุมูลอิสระที่จะมาทำลายเซลล์ผนังหลอดเลือด ช่วยบรรเทาอาการเส้นเลือดขอดหรือโป่งพองได้ ทั้งที่หัวใจและสมอง
ต้านเส้นเลือดเปราะ เลือดออกง่าย เส้นเลือดขอด ไม่ว่าที่น่อง เส้นเลือดขอดที่ขา ริดสีดวงทวาร
พบว่า OPC มีประสิทธิภาพสูงกว่าฟลาโวนอยด์ที่จดทะเบียนเป็นยา และดีต่อโรคหลอดเลือดดำอักเสบ เหนือกว่าสมุนไพรที่ชื่อ Norse chesnat
ลดเลือดจับตัวเป็นก้อน (venous thombosis) จากการนั่งอยู่กับที่นานๆ พบว่า OPC ขนาด 100 มก.มีคุณสมบัติทำให้เลือดบางลง หรือลดการจับตัวของเกล็ดเลือด เทียบเท่า Aspirin 500มก.
\จึงไม่ควรรับ OPC ร่วมกับยาลดการเกาะตัวของ
เกล็ดเลือดอื่นๆ เช่น วาฟาร์ลิน เฮฟฟาริน แอสไพริน
OPC เหนือกว่า Aspirin ตรงที่ไม่กัดกระเพาะ จึงกินขณะท้องว่างได้
1. ลดอักเสบ (Anti-Inflammation) OPC ไปยับยั้งการทำงานของ enz.กลุ่มที่ย่อยโปรตีน (Protease) ย่อย collagen (collagenase) ทำให้ PGE2 ไม่ถูกสังเคราะห์ขึ้นคือ สารก่ออักเสบที่ n6 สร้างขึ้น) เมื่อไม่เกิด PGE2 จึงทุเลาอาการปวดอักเสบต่างๆ เช่น ปวดกล้ามเนื้อและเส้นใย (fibromyalgia) ปวดข้อ (arthritis) และโรคผิวหนังพุพอง (eczema) เป็นต้น ต้านการอักเสบ OPC จะยับยั้งการสังเคราะห์ และการปล่อยสารที่จะทำให้เกิดการอักเสบ ทำให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันของข้อต่างๆ ทำงานได้ดี ลดอาการข้อกระดูกอักเสบ โรคเนื้อเยื่อแข็ง (PGE2
อาการแทรกซ้อนจากเบาหวาน เช่น ปลายประสาทอักเสบ ขาชา ตาเสื่อม ตาบอด ต้อกระจก
4. ลดอาการภูมิแพ้ OPC มีคุณสมบัติในการต้านสารฮีสตามีน จึงช่วยลดอาการภูมิแพ้ หอบหืด
เส้นเลือดฝอยแข็งแรง ไม่แตกเปราะ เนื้อเยื่อแข็งแรง ปกป้อง mast cell มิให้ถูกโจมตี เมื่อไม่ถูกรบกวนก็
ไม่หลั่ง histamine มาก ไม่เกิดอาการภูมิแพ้
OPC ดีกว่ากินยาแก้แพ้ (Antihistamine) เพราะไม่ง่วง ไม่เกิดซึมเศร้า หรือนมโตในผู้ชาย อันเป็นผลข้างเคียงของ Antihistamine
5. ป้องกันสมองเสื่อม OPC สามารถผ่านแนวกั้นสมองได้ จึงป้องกันสมองจากการทำลายของอนุมูลอิสระ
6. ป้องกันการเสื่อมของดวงตา ต้อกระจก ตาเสื่อมจากเบาหวานช่วยให้สายตาปรับการมองเห็นในที่มืดได้ดี ปกป้องอาการตาเสื่อมจากเบาหวาน
7. ป้องกันมะเร็ง OPC ป้องกันมิให้อนุมูลอิสระไปทำความเสียหายต่อ DNA ของเซลล์ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นเซลล์มะเร็ง
OPC กีดขวางการเกิดมะเร็ง จากฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และสนับสนุนการทำงานของวิตามิน C และ E
หากใช้ร่วมกับน้ำมันปลา n3 สารพฤษเคมีอื่นๆ ร่วมกัน น่าจะเกิดผลดียิ่งขึ้นได้
แต่ก็ยังไม่มีรายงานในคนแบบวิชาการ จึงเป็นเพียงความคาดหวังทางทฤษฎีเท่านั้น
8. ป้องกันผิวหนังเหี่ยวแก่ และช่วยให้เส้นผมแข็งแรงจากต้านอนุมูลอิสระของ OPC
มีนักวิจัยชื่อ Takahashi พบว่า OPC กระต้นเส้นผมในหนูทดลองให้งอก จากคุณสมบัติ ช่วยหยุดการทำงานของฮอร์โมนลักษณะเพศชาย (Dihy drotestosterone – DHT) ซึ่งถ้า DHT มากไปจะไปยับยั้งการเกิดตุ่มเส้นผม จึงทำให้ขนหรือผมร่วง ในด้านการป้องกันริ้วรอย ฝ้า กระ OPC ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่จะมาทำลายคอลลาเจน และอิลาสตินในผิวหนัง อันเป็นสาเหตุทำให้ผิวเสื่อมสภาพ เกิดริ้วรอยก่อนวัย คงสภาพของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (connective tissue)
ผู้เขียนหนังสือแนะนำให้ใช้ร่วมกับสาร MSM (Methyl Sulphur Methane) ในการบำรุงรากผม ช่วยให้ผมงอกงามดีขึ้น MSM เป็น (Organic sulphur) กำมะถันอินทรีย์ซึ่งไม่มีกลิ่นเหม็นเหมือนกำมะถันทั่วไป และไม่เกิดอาการแทรกซ้อน เช่น ผิวแห้งเป็นขุย
กำมะถันยังพบมากในทุเรียน กลิ่นทุเรียนก็โยงใยกับกลิ่นกำมะถันได้
9. ลดบวม (edema) อาการบวมหลังผ่าตัด เนื่องจาก protein collagen elastin เสื่อมสภาพ ทำให้น้ำเหลืองไหลซึมออกมาได้ง่าย OPC ไปช่วยให้ collagen elastin เหนียวแข็งแรง ก็จึงลดอาการบวมได้โดยเร็ว
รวมไปถึงอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ฟกช้ำดำเขียว
10. ลดโคเลสเตอรอล
11. เพิ่มภูมิคุ้มกัน
12.ช่วยการหายของบาดแผล จากผลการเพิ่มภูมิคุ้มกัน
13. ลดเลือดออกไรฟัน
14. ลดแผลในปาก
15. ลดอาการเริมที่ปาก
16. ลดไซนัสอักเสบ
…(โดยมักใช้ร่วมหรือเสริมฤทธิ์ยาอื่น)
17.การแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย E.D = Erectile Dysfunction) อาการหย่อนสมรรถภาพ ซึ่งมักพบในชายอายุเกิน 45 ถึง 40% พบว่าOPC ช่วยได้ แต่ต้องร่วมกับการออกกำลังกาย และภาวะจิตใจด้วย แต่ผลการศึกษาใช้กลุ่มตัวอย่างมีไม่มากพอ
ขนาดรับประทาน
ก. เพื่อต้านอนุมูลอิสระในชีวิตประจำวัน ใช้ขนาด 50 – 100 มก./ วัน
ข. เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะโรค ขนาด 100–400 มก./วัน เช่น
ทานวันละ 1-2 เม็ด ก่อนอาหาร 10 - 15 นาทีเช้า-เย็น